หวยออนไลน์ เล่นง่าย จ่ายหนัก

หลวงพ่อโตซำปอกง

ขอพร ขอหวย กราบไหว้บูชาสักการะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มาแรงในปี 2565 หลวงพ่อโตหรือซำปอกง

สายมูห้ามพลาดเด็ดขาด วันนี้พวกเราจะพาไปไหว้ หลวงพ่อโต หรือ ซำปอกง เพื่อเป็นการเสริมมงคล กราบไหว้บูชา ขอพร ขอหวย ขอเลขเด็ด จากหลวงพ่อโตเป็นพระพุทธรูปที่ชื่อเสียงโด่งดัง ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความขลังความศักดิ์สิทธ์เป็นอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มาแรงในปี 2565  หลวงพ่อโตมีอยู่ทั้งหมด  3 ที่ด้วยกัน มีอยู่ในกรุงเทพฯ และจังหวัดข้างเคียง สำหรับพระพุทธรูปองค์นั้นก็คือ หลวงพ่อโต หรือถูกเรียกอีกชื่อว่า ซำปอกง นั่นเอง

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มาแรงในปี 2565

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มาแรงในปี 2565 สำหรับใครที่เป็นสายมูต้องมามุงอย่างด่วน นอกจากท้าวเวสสุวรรณและพระราหูที่มีชื่อเสียงโด่งดังแล้ว ยังมี หลวงพ่อโต หรือ ซำปอกง เป็นพระพุทธรูปที่มีเชื้อสายมาจากจีน เป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์ ผู้คนส่วนใหญ่ให้ความนิยมและความเคารพนับถือ นิยมไปกราบไหว้ขอพร ขอหวย ขอ โชคลาภ กันมากมายไหว้พระ ขอพร ขอเลขเด็ด

 

ขอพร ขอหวย กราบไหว้บูชาสักการะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มาแรงในปี 2565 หลวงพ่อโตหรือซำปอกง

ประวัติความเป็นมาของหลวงพ่อโตหรือซำปอกง

ประวัติความเป็นมาของหลวงพ่อโต หรือซำปอกง เป็นพระพุทธรูปที่ชาวไทยรู้จักกันเป็นอย่างดีในชื่อของ หลวงพ่อโต เป็นที่เคารพบูชาของผู้ศรัทธาทั้งชาวไทยและชาวจีน มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน ซำปอกงถูกสร้างขึ้นมาจากชาวจีนยูนานชื่อว่า เจิ้งเหอ เพื่อเป็นตัวแทนให้ผู้ที่เคารพนับถือได้กราบไหว้ ขอพร

ซำปอกง เป็นหนึ่งในวีรบุรุษของจีน เดิมชื่อ หม่า เหอ เมื่ออายุ 11 ปี เขาได้ตกเป็นเชลยศึกในสงครามกวาดล้างกองกำลังมองโกลที่ปักหลักอยู่ในแถบยูนนาน และถูกส่งตัวเข้ามาเป็นขันที โดยทำงานรับใช้กองทัพในสมรภูมิรบหลายปี จนได้มารับใช้ เอี้ยนหวังจูตี้ องค์ชายสี่แห่งราชวงศ์หมิงที่ปักกิ่ง นับตั้งแต่นั้นมาก็ หม่า เหอ ก็ได้ติดตามข้างกายจูตี้ตลอดมาจนได้รับความไว้วางใจเป็นอย่างมาก

หม่า เหอ ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้บัญชาการกองเรือขนาดใหญ่ออกเดินทางไปในมหาสมุทรอันกว้างไกลถึง 7 ครั้งในรอบ 28 ปี ซึ่งนอกเหนือจากเพื่อผลประโยชน์ทางการค้า เศรษฐกิจ การฑูตแล้ว ยังแฝงไปด้วยทางการเมืองและการสืบราชบัลลังก์ จนในที่สุดหม่า เหอ ก็ได้ช่วยให้จูตี้ได้ก้าวขึ้นคลองบัลลังก์เป็นจักรพรรดิหมิงเฉิงจู่ และได้รับการเลื่อนฐานะขึ้นมาเรื่อยจนกลายเป็นหัวหน้าขันทีและได้รับพระราชทานแซ่ เจิ้ง จึงกลายมาเป็น เจิ้งเหอ หรือที่รู้จักกันในนาม ซำปอกง

ในประเทศไทยมีหลวงพ่อโตหรือซำปอกงดัง ๆ อยู่ 3 แห่ง

ซำปอกงได้กลายมาเป็นพระพุทธรูปในวัดไทยซึ่งเป็นที่นับถือเคารพบูชาจากทั้งชาวไทยและจีน โดยในประเทศไทยของเรามีซำปอกงดัง ๆ อยู่ 3 แห่งด้วยกัน หลวงพ่อโตที่คนนิยมไปกราบไหว้ขอพรให้การค้าขายเจริญรุ่งเรือง มีเงินเป็นกอบเป็นกำ เงินไหลมาเทมา หากใครที่เดินทางมีประสบเจอแต่ความ โชคดี และให้มีโชคลาภเข้ามาเรื่อย ๆ  มีหลวงพ่อโตหรือซำปอกงดัง ๆ อยู่ 3 แห่ง มีดังต่อไปนี้

1. หลวงพ่อโต ซำปอกง วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ

หลวงพ่อโต ซำปอกง วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ

วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ถูกสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 โดยมีหลวงพ่อโต หรือเรียกอีกชื่อว่า พระพุทธไตรรัตนนายก ถือว่าเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ สร้างขึ้นเพื่อเป็นเสริม สิริมงคล อีกทั้งยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้คนกรุงเทพฯได้มากราบไหว้บูชา ขอพรเหมือนกับชาวกรุงเก่าอยุธยา

 องค์หลวงพ่อโตที่วัดแห่งนี้มีความสูง 15 เมตรกว่า ๆ และมีความกว้างของหน้าตัก 11 เมตรกว่าเกือบสิบ สองเมตร บรรยากาศภายในวัดมีความร่มเย็น เพราะวัดแห่งนี้ตั้งอยู่ริมบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา คล้ายกับวัดพนัญเชิงที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำป่าสักเช่นเดียวกัน หากใครที่ไปวัดแห่งนี้สามารถนั่งเรือข้ามฟากจากท่าเรือปากคลองตลาดไปขึ้นที่ท่าวัดกัลยาณมิตรได้เลย

หากใครจะมาขอโชคลาภ ลาภลอยต่าง ๆ ส่วนใหญ่ผลบุญจะมาจากการสิ่งที่เคยทำบุญทั้งการให้ทาน ปล่อยนกปล่อยปลาตามวันเกิด ผลบุญนั้นจะช่วยให้มีโชคลาภ ลาภลอยจากการเสี่ยงโชค ไม่ว่าจะเป็นการซื้อหวย ลอตเตอรี่ หวยลาว หวยฮานอย หวยออนไลน์ หรือ แทงหวย ผ่านเว็บหวยออนไลน์ เป็นต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลบุญที่กระทำด้วย

2. หลวงพ่อโต ซำปอกง วัดพนัญเชิง จ.อยุธยา

หลวงพ่อโต ซำปอกง วัดพนัญเชิง จ.อยุธยา

หลวงพ่อโต ซำปอกง วัดพนัญเชิง จ.อยุธยา หลวงพ่อโตที่วัดแห่งนี้ เชื่อกันว่าถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ในความรักของ พระเจ้าสายน้ำผึ้ง ที่มีต่อ พระนางสร้อยดอกหมาก มเหสีผู้เป็นที่รัก เป็นพระพุทธรูปทรงปางมารวิชัย ที่มีความสูงถึง 19 เมตร มีหน้าตักกว้างถึง 20 เมตร และเป็นพระพุทธรูปที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองของชาวอยุธยา ผู้คนต่างเลื่องลือในความศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก

ความศักดิ์สิทธิ์ ของหลวงพ่อโตซำปอกง เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 2 ช่วงนั้นเกิดโรคอหิวาตกโรคระบาดอย่างหนัก จนทำให้ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมากทำให้ไม่มีที่เผาศพ ชาวบ้านจึงไปขอพรจากหลวงพ่อโต และได้นำน้ำมนต์กับขี้ธูปมาผสมบางคนนำไปประพรมตามตัว บางคนนำไปผสมน้ำอาบ บางคนนำไปดื่มกิน จึงเกิดเหตุอัศจรรย์ใจทำให้หายจากโรคนั้นได้จริง ๆ ทำให้ความศักดิ์สิทธิ์ของซำปอกงเป็นที่เลื่องลือเล่าสืบต่อกันมา

3.หลวงพ่อโต ซำปอกง วัดอุภัยภาติการาม จ.ฉะเชิงเทรา

หลวงพ่อโต ซำปอกง วัดอุภัยภาติการาม จ.ฉะเชิงเทรา

วัดอุภัยภาติการาม ชาวบ้านในพื้นที่จะเรียกวัดนี้ว่า วัดซำปอกง เป็นวัดที่มีความศักดิ์สิทธิ์มีผู้คนต่างหลั่งไหลไปไหว้ขอพรจากหลวงพ่อโต เป็นพระประธานที่มีขนาดความสูงถึง 6 เมตรกว่า ๆ มีความสูงถึง 12 เมตร ถือได้ว่าเป็นพระประธานที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งช่างได้จำลองแบบการสร้างมาจาก หลวงพ่อโต ที่วัดพนัญเชิง

การกราบไหว้ขอพรจากหลวงพ่อโต ซำปอกง

การกราบไหว้ ขอพร จากหลวงพ่อโต ซำปอกง มี 3 แห่งด้วยกัน หากใครสะดวกที่ไหนสามารถไปขอพรจากไปที่นั่นเลย สำหรับใครที่ไม่ชอบเดินทางไกล แนะนำไปกราบไหว้พระขอพรจากหลวงพ่อโตที่วัดกัลยาณมิตร เพราะมีความศักดิ์สิทธิ์มาก ๆ ซึ่งวิธีการไหว้นั้นไม่ยุ่งยาก ลักษณะการไหว้จะคล้าย ๆ กับการไหว้ขอพรจากเทพเจ้าของจีน โดยที่วัดจะมีป้ายบอกจุดไหว้เป็นลำดับ ดังต่อไปนี้

  • จุดที่1 : ให้ไหว้ฟ้าดินก่อน ที่จุดนี้ใช้ธูป 3 ดอก
  • จุดที่2 : จุดธูป 3 ดอกไหว้สักการะบูชาหลวงพ่อโตในวิหาร
  • จุดที่3 : ไหว้สักการะ บูชาหลวงพ่อโตองค์จำลอง ใช้ธูป 3 ดอก
  • จุดที่4 : ไหว้สักการะขอพรองค์พระสังกัจจายน์ ด้วยธูป 3 ดอก
  • จุดที่5 : ไหว้สักการะ บูชาองค์หลวงพ่อโตจำลองด้วยธูป 3 ดอก

จากนั้นเข้าไปกราบขอพรจากองค์หลวงพ่อโต ซำปอกง ภายในวิหารอีกครั้ง หรือสามารถที่จะเข้าไปสวดมนต์ หรือนั่งสมาธิเพื่อส่งบุญให้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเป็นการทำให้จิตใจเกิดความสงบได้อีกด้วย

การขอพร ขอโชคลาภ ขอหวยกับหลวงพ่อโต ซำปอกงอันศักดิ์สิทธิ์